googleca9db13d132b9d4f.html 0864407089

EP11: 5 มะเร็งที่ผู้หญิงป่วยมากที่สุด

          ขึ้นชื่อว่ามะเร็งใครบ้างจะไม่สนใจ? หลายคนกลัวและระแวงว่าจะเกิดกับตัวเองเมื่อไร เพราะโรคนี้มีหลายสาเหตุ ทั้งจากพันธุกรรม หรือ พฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีลักษณะเฉพาะของร่างกายที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะร่างกายผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามช่วงวัย ความผิดปกติของร่างกายจึงอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายได้ เราจึงไม่พลาดที่จะรวบรวม 5 มะเร็งโรคร้ายที่ผู้หญิงป่วยมากที่สุดมาให้ทุกคนได้สังเกตอาการด้วยตัวเองและระวังกัน

.

1. มะเร็งเต้านม

           แน่นอนว่ามะเร็งที่ผู้หญิงป่วยมากเป็นอันดับ 1 นั้นต้องเป็นมะเร็งเต้านม และยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ ของผู้หญิงเช่นกัน มะเร็งเต้านมเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ที่อยู่ภายในท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนม เซลล์เหล่านี้มีการแบ่งตัวผิดปกติไม่สามารถควบคุมได้อาจมีการแพร่กระจายไปตามทางเดินน้ำเหลือง ไปสู่ต่อมน้ำเหลือง หรือแพร่กระจายไปสู่อวัยวะที่อยู่ห่างไกลเช่น กระดูก ปอด ตับ เป็นต้น การตรวจพบมะเร็งในระยะแรกจะช่วยให้การรักษามีโอกาสประสบความสำเร็จได้สูง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม

  • เพศหญิงมีฮอร์โมนเพศ เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งสามารถกระตุ้นการเจริญของเซลล์มะเร็งเต้านมได้
  • อายุ ในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
  • มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม
  • พันธุกรรม คนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม
  • การใช้ชีวิตที่ทำลายสุขภาพ น้ำหนักเกิน ขาดการออกกำลังกาย หรือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

หากสงสัยว่าตัวเองอาจมีอาการของโรคมะเร็งเต้านมและรีบไปพบแพทย์ทันที

.

2. มะเร็งปากมดลูก

          มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านมเลยทีเดียว อาการป่วยในระยะเริ่มแรกหรือระยะก่อนเป็นมะเร็งนั้นผู้ป่วยจะไม่มีอาการใดๆ เลย ดังนั้น หากพบว่ามีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด ประจำเดือนมานานผิดปกติ มีเลือดออกทั้งที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว บางรายมีอาการตกขาวมากและมีกลิ่นผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะเมื่อตรวจแล้วพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกก็แสดงว่าโรคได้ลุกลามแล้ว

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก

  • ผู้หญิงทุกคนที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์
  • อายุระหว่าง 40-50 ปี
  • มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
  • เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
  • มีบุตรหลายคน
  • มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี

ดังนั้น ผู้หญิงควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปีเพื่อลดความเสี่ยง

.

3. มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

          หลายคนคงแทบไม่เชื่อว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ก็อยู่ในลิสต์โรคมะเร็งยอดฮิตของผู้หญิง ซึ่งพบมากเป็นอันดับ 3 ของผู้หญิง ส่วนอาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักในระยะต้นๆ มักไม่มีความผิดปกติใดๆ จนกระทั่งโรคพัฒนาขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเสีย ท้องผูก รู้สึกถ่ายไม่หมด ปวดมวนท้องไม่ทราบสาเหตุ อุจจาระมีเลือดปน ลักษณะอุจจาระเล็กเรียวยาวกว่าปกติ รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ และมีภาวะโมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักลหิตจาง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

  • ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
  • มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • เคยถูกตรวจพบว่ามีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่มาก่อน
  • มีประวัติเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง
  • สูบบุหรี่
  • ดื่มแอลกอฮอล์
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • น้ำหนักเกิน
  • ชอบทานอาหารไขมันสูงและไม่ค่อยรับประทานผัก ผลไม้

ดังนั้น ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรตรวจคัดกรองเร็วขึ้นคือเริ่มที่อายุ 40 ปี

.

4. มะเร็งปอด

            หลายคนคงคาดไม่ถึงว่ามะเร็งปอดที่นี้คงพบในผู้ชายมากกว่า จะเป็นโรคมะเร็งที่พบในผู้หญิงมากจนติดอันดับเช่นกัน ที่สำคัญยังเป็นโรคที่มีความรุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากถึงร้อยละ 60 เลยทีเดียว ส่วนอาการของโรคจะปรากฎเมื่อมะเร็งเข้าสู่ระยะที่ 3-4 โดยผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจผิดปกติ ติดเชื้อในปอดบ่อยๆ เจ็บหน้าอก เสียงแหบ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ หากมะเร็งเกิดที่หลอดลมก็จะมีอาการไอเรื้อรัง บางรายอาจไอมีเลือดปน

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด

  • ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือมีประวัติสูบบุหรี่ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่แต่สัมผัสควันบุหรี่ (second-hand smoking)
  • ผู้ที่เคยรับสารพิษจากการสูดดมติดต่อกันเป็นเวลานาน

เมื่อคุณมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอดดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปอดเป็นประจำทุกปีเพื่อลดความเสี่ยง

.

5. มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

          มาที่ลำดับสุดท้ายกันแล้วกับมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งเป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 5 ของผู้หญิงไทย อาการของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก คือ ประจำเดือนผิดปกติ เช่น มาบ้างไม่มาบ้าง มานานกว่าปกติ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้งที่หมดประจำเดือนแล้ว

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

  • ผู้หญิงที่มีบุตรน้อยหรือไม่มีบุตร
  • มีประจำเดือนต่อเนื่องแม้จะถึงวัยที่ควรหมดประจำเดือนแล้ว
  • มีภาวะฮอร์โมนผันผวน เช่น ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน มีน้ำหนักตัวมากเกินไป

*การเกิดโรคยังไม่แน่ชัด แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิง

ดังนั้น ผู้หญิงที่มีภาวะเสี่ยงดังกล่าวจึงจำเป็นต้องไปพบสูตินรีแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการ

.

        จากที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดกับ 5 มะเร็งนั้น ผู้หญิงทุกท่านควรเช็กร่างกาย หมั่นสังเกตอาการและความเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมาไม่ใช่แค่ร่างกายเราเท่านั้นที่ทรุดโทรม แต่ ค่ารักษาที่ต้องจ่าย ต้องเยอะตามการรักษาที่ซับซ้อนและยากแน่นอน การวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญอย่างมาก การทำ ประกันภัยโรคมะเร็ง  จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทุกคนน่าจะสนใจ " เมื่อตรวจพบมะเร็งครั้งแรก ไม่ว่าระยะใดก็ตาม รับเงินก้อนทันที "

        เป็นตัวช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายในการรักษา ค่าเดินทางไปรักษา-ตรวจซ้ำ โดยไม่กระทบกับการใช้จ่ายประจำวัน แบ่งเบาภาระในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยแผนประกันที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ กับความคุ้มครองที่ว่า

  • ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งครั้งแรก หลังเอาประกันภัยไม่น่้อยกว่า 90 วัน รับค่าสินไหมสูงสุด 1,000,000 บาท 
  • กรณีต้องรักษาด้วยการฉายรังสี หรือเคมีบำบัด รับเงินชดเชยสูงสุด 25,000 บาท 
  • ความคุ้มครองพิเศษ กรณีพบมะเร็งเต้านม และต้องได้รับการรักษาโรคมะเร็งเต้านมด้วยวิธีการผ่าตัดเอาเต้านมออกทั้งเต้า รับเงินชดเชยสูงสุด  250,000 บาท
  • ครบด้วยกรมธรรม์ที่มาพร้อมกับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล สูงสุด 100,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 10,000 บาท/ครั้ง

สนใจสอบถามเราได้นะคะ  เรายินดีให้คำแนะนำเพื่อให้คุณได้รับประโยชน์ที่สุด ดูแลคุณทุกขั้นตอนประกันภัย

.

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก  : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

Visitors: 113,371